ฝอยมาซะนาน ผมยังไม่ได้เล่าเลยใช่ไหมครับว่าพ่อแม่ผมมาอยู่ที่สวนภูเรือวโนทยานนี่ได้ยังไง คือคุณหมอชัยยุทธ กรรณสูตน่ะครับ ท่านเห็นความสำเร็จของพวกผมทั้งจากโครงการพัฒนาดอยตุงและจากสถานีทดลองเกษตรที่สูงที่ภูเรือ อีกทั้งได้รับการยืนยันจากคุณดำเกิง ชาลีจันทร์ นักวิชาการของกรมวิชาการเกษตรที่ดูแลพวกผมมาตั้งแต่ต้นว่าผมจะเติบโตได้ดีที่นี่ ท่านจึงอยากสร้างสวนมะคาเดเมียนัทขึ้นที่ อ.ภูเรือ จ.เลยบ้าง
พวกเราเลยได้มาอยู่ที่สวนภูเรือวโนทยานกันเป็นชุมชนใหญ่เพราะที่นี่ปลูกญาติพี่น้องของผมไว้ถึง 30,000 กว่าต้น ประมาณ 1,200 ไร่ พ่อแม่ผมที่เป็นรุ่นแรกนั้นมีอายุกว่า 20 ปีแล้วครับ พวกผมชอบที่นี่เพราะอากาศเย็นแล้วยังอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 700 เมตรขึ้นไป (พวกผมชอบอยู่ที่สูงๆ ครับ ถ้าได้อยู่ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 350-1,300 เมตรละก็ชอบนัก) อ.ภูเรือเป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ ระบายน้ำได้ดีแถมมีปริมาณน้ำฝนสม่ำเสมอตั้งแต่ 1,300-3,000 มม. ต่อปี ที่สำคัญ ช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม จะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 18°C ในตอนกลางคืน เหมาะกับการแตกตาดอกของพวกผมซึ่งต้องการอุณหภูมิต่ำกว่า 18°C ยาวต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือนสุดๆ เลยละครับ เจ้านายผมเขาเห็นพวกผมชอบอยู่ที่นี่กันก็เลยมีโครงการจะขยายพื้นที่ปลูกออกไปอีกเรื่อยๆ ถ้าคุณๆ มาเที่ยวที่นี่ ก็จะเห็นพี่น้องเพื่อนพ้องของผมสุดลูกหูลูกตาเลยละครับ
มานะครับ มาเที่ยวที่นี่กัน ผมยินดีพาชมให้ทั่วๆ เลยครับ ใครอยากมีนัดกับซุปตาร์อย่างผม ก็อ่านต่อไปข้างล่างเลยนะครับ ผมจะพาเที่ยวด้วยภาพพอเป็นน้ำจิ้มก่อน แต่อยากกระซิบว่าดูจากรูปน่ะ ไม่ได้สัมผัสกับอากาศสดชื่น เย็นสบายแบบของจริงหรอกนะครับ
ยังไงก็อย่าลืมหาเวลามาเยี่ยมเยียนทักทายพวกผมที่ภูเรือให้ได้สักครั้งนะครับ |